ทำไมต้องมีสินสอด?

“สินสอด” มันมีหลายความหมายที่มาที่ไป ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็น “สินเพื่อสอด” หรือก็คือเงินที่ฝ่ายชายต้องจ่ายเพื่อสอดฝ่ายหญิง ฟังแล้วอาจจะทะลึ่งแต่มีคนบอกมาแบบนั้นจริงๆ

ที่จริงแล้วเงินสินสอด มันเป็นกุศโลบายของคนโบราณ เพราะเมื่อสมัยก่อน การแต่งงานมักจะเป็นแบบบังคับ อารมณ์แบบจับผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักกันมาก่อนมาแต่งงานกัน ซึ่งมีโอกาสที่ฝ่ายชายจะเทฝ่ายหญิง เลยต้องมีเงินประกันไว้ก่อนแล้ว

ส่วนความหมายที่น่าเชื่อถือสุดคือ คำว่าสินสอดก็มาจากรูปแบบของเงินในสมัยก่อนที่เป็น “เงินพดด้วง” มีลักษณะกลมๆ มีรูตรงกลาง และก็มีเงินอีกแบบที่เรียกว่า “เงินราง” มีลักษณะเป็นแท่งรีๆ ยาวๆ พอจะถึงพิธีหมั่นก็จะนำเงินสองอย่างนี้มาสอดกันให้พอดี เพื่อความสวยงามและประหยัดพื้นที่ เลยเรียนเงินเหล่านี้ว่า “สินสอด” ได้ยินอย่างนี้แล้วก็อย่าคิดลึกอีกน้า

สินสอดมันสำคัญยังไง?

อย่างแรกเลยสมัยก่อนสังคมยังไม่ยอมให้ผู้หญิงให้ทำงานหาเงิน ทำให้ต้องพึ่งพาผู้ชายเป็นอย่างมาก ดังนั้นเนี่ยเงินสินสอดจึงเปรียบเสมือนเครื่องยืนยันความมั่นคงให้กับชีวิตของผู้หญิง หากเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เช่น ฝ่ายชายตายเพราะไปออกรบ ฝ่ายหญิงจะได้สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง

สรุปแล้วสินสอดนั้นสำคัญไหม?

เราก็คงตอบไม่ได้อย่างชัดเจน เพราะมันแล้วแต่คนมอง บางคนอาจมองว่าความรักสำคัญกว่าเงินทอง ซึ่งปัจจุบันฝ่ายชายก็ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูฝ่ายหญิงอีกต่อไป สินสอดส่วนมากก็มาจากเงินที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงหามาร่วมกัน พอเสร็จงานก็เอามาใช้ ทำให้ความสำคัญของสินสอดก็ลดลงไปตามกาลเวลา สินสอดจึงกลายเป็นสัญลักษณ์เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้งานแต่งดูหรูหราขึ้น และเพื่อให้พิธีมันสมบูรณ์ครอบตามประเพณีเรา

เป็นยังไงกันบ้างคะ เห็นแบบนี้แล้วใครที่กำลังจะแต่งงานก็เตรียมสินสอดเอาไว้เนอะ จะได้เสริมความเป็นมงคลให้กับชีวิตคู่เรา แต่ถ้าใครยังเก็บเงินไม่ทัน เร็วๆ นี้ทางเราจะมีบริการ “เช่าสินสอด” เพื่อที่จะให้งานแต่งของเพื่อนๆ ทุกคนสมบูรณ์แบบที่สุด